บางคนตัดสินใจลาออกจากงานที่ตนรัก เพื่อสังเวยให้กับคน ร้ า ยๆ ในองค์กร
25 มีนาคม 2563
ผู้ชม 370 ผู้ชม
บางคนตัดสินใจลาออกจากงานที่ตนรัก เพื่อสังเวยให้กับคนร้ายๆ ในองค์กร
การสมัครงานและการลาออกเป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นอยู่ตลอดในโลกของการทำงาน ไม่ใช่เรื่อง ผิ ด อะไรหากเราจะมองหาบริษัทที่ให้ เ งิ น เดือนมากขึ้น
มองถึงตำแหน่งงานที่ก้าวไปไกลกว่าเดิม อยากเปลี่ยนสายงาน หรือแม้แต่ได้เลือกทำงานที่หลงใหลจริง ๆต่างก็เป็นเหตุผลที่
เหมาะสมกับการ ล า อ อ กทั้งนั้น แต่เรื่องที่คนส่วนใหญ่มัก ส ง สั ย ก็ คือ เราต้องรู้อะไรบ้างหากจะ ล า อ อ กหลายคนตัดสินใจ
ลาออกจากงาuที่ตนรัก เพื่อสังเวยให้กับสังคมที่มีแต่คน ร้ า ย ๆในองค์กร โดยที่เจ้านายไม่ได้ปกป้องลูกน้องที่ดี แต่กลับนิ่งเฉย
ปล่อยเนื้อร้ า ย ไว้ในองค์กรหลายบริษัทต้องเสียพนักงานดีๆ ไปเพียงเพราะมี “คนร้ายๆ ในองค์กร” แต่ก็ไม่สามารถจัดการอะไร
ได้ คนดีๆ คนเก่งๆ ก็ลาออกไปกันหมดหลายๆคน ตอบได้เต็มปากเต็มคำ “ฉัน รัก งาu ของฉันมากนะ” พวกเขาไม่ได้มี ปั ญ ห า
กับงาu หนักแค่ไหนก็ลุยได้แต่บางครั้งการทำงาuกับคน เ ล ว ๆ กำลังจะทำให้เขาหมดไฟที่จะไปต่อกับองค์กรในที่สุด เขายอม
ละทิ้งงาuที่เขารักเพื่อสังเวยให้กับคนเหล่านี้ได้เสมอ เมื่อเจ้านายไม่จัดการอะไรเลยสักอย่าง บอกอะไรก็ดูเหมือนจะไม่ตักเตือน
หรือไร้ซึ่งการพัฒนาตนเองของคน ร้ า ย ๆ คนนั้น แล้วที่มัน เ ล ว ร้ า ย ไปกว่านั้นคือ คน ร้ า ย ๆเหล่านั้น กลับเป็นเจ้านายของเขา
เสียเองและเป็นคนทำให้บรร ย า กาศการทำงาuมันแย่ไปกว่าเดิม “คนในองค์กรระดับสูง” คือชนชั้นเจ้านายมีผลมาก ต่อการที่
วัฒนธรรมองค์กรจะเปลี่ยน หรือไม่เปลี่ยน ถ้าคุณเห็นบุคคล หรือกลุ่มคนที่เป็นเนื้อ ร้ า ย ขององค์กร ด้วยพฤติกรรมที่ไม่เหมาะ
สม แต่คุณยังคงนิ่งเฉย ไม่ทำอะไร สุดท้ายคนดีๆ ทำงาuเก่งๆเจ๋งๆ ก็จะลาออกไปกันหมดเพราะพวกเขาทนสภาวะแวดล้อมใน
การทำงาu เ ล ว ๆนั้นไม่ได้ แต่ที่เจ้านายนิ่งเฉย บางครั้งเขาเห็น ปั ญ ห า แต่เขาทำเป็นไม่เห็น เพื่อไม่ให้ตัวเองเดือดร้อนไปด้วย
หรือลงไปเล่นใน ส ง ค ร า ม ก า ร เ มื อ ง ของลูกน้อง เพื่อเอาตัวรอด ให้ตน ป ล อ ด ภั ยไม่แตะลง “ ปั ญ ห า คน”ทั้งๆที่มันกำลัง
จะเป็น ปั ญ ห า กระทบไปถึงงาuเสียด้วยซ้ำ ความพ ย า ย า มของเจ้านายในการแก้ปัญหาคน สะท้อนถึงความตั้งใจที่จะเปลี่ยน
วัฒนธรรมองค์กร และสิ่งแวดล้อมในการทำงาuให้น่าอยู่ขึ้น ซึ่งจะช่วย HR ขับเคลื่อนได้ดีมากด้วยความร่วมมือ การ report และ
feedback ต่างๆ กลุ่มคนที่สร้าง ปั ญ ห า ให้เพื่อนร่วมงาu และพฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ในคำพูด และการกระทำมันทำให้การ
ทำงาuไร้ความเป็นทีม จะหาความเป็นทีมได้จากคนทำงาuกร่างๆในที่ทำงาuที่ไม่สนใจการอยู่ร่วมกับคนอื่น หรือการสร้าง
วัฒนธรรมที่ดีในองค์กรคงหาไม่ได้อีกแล้วและถ้าพ ย า ย า มแล้วที่จะแก้ไข แต่คนเหล่านั้นไม่เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น ผู้บริหาร
และ HR ควรต้องตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่งที่เด็ดขาดมากพอ ไม่อย่างนั้นแล้ว เขาจะเสียคนฝีมือดีที่เป็นเส้น เ ลื อ ด ใหญ่ของ
องค์กรไปเรื่อยๆ จนเหลือไว้แต่ “เจ้าที่ขาโจ๋” ที่ทำตัวยิ่งใหญ่ แต่ไม่ทำงาu และไม่เป็นเพื่อนร่วมงาuที่ดีแล้วก็ยังคงเก็บเอาไว้ใน
องค์กร ยอมจากไปเพื่อแลกกับ สุ ข ภ า พ จิตของตนเอง คนเราใช้เวลาในที่ทำงาuปีหนึ่งๆ มากกว่าได้หยุดอยู่บ้านเสียอีก ลอง
คิดดูสิคะ บางคนอยู่ออฟฟิศมากว่าอยู่บ้านเสียอีกหลายคนรักงาu ยอมทำงาuโดยไม่รับโอที ยอมสละเวลาทุกอย่าง แต่กลับได้
เพื่อนร่วมงาu ร้ า ย ๆ ก็ไม่อ ย า กอยู่หรอกค่ะบอกตรงๆเลย มันเป็น ” สุ ข ภา พ จิต” ทั้งหมดของพวกเขา ให้เขาแลกชีวิตการทำ
งาu กับการต้องเป็นบ้ากับคนในงาu เมื่อเขาลองชั่งน้ำหนักแล้วมันไม่คุ้มสุดท้าย เขาเลือกลาออกไปดีกว่า เพราะมันแลกกับจิต
ที่ดีกลับมา และมันทำให้คุณค่าในการใช้ชีวิตในที่ทำงาuของเขากลับมาด้วย เมื่อได้ทำงาuที่รักและเจอเพื่อนร่วมงาuที่น่ารักอยู่
ร่วมไปด้วยกันมันทำให้โลกของการทำงาuน่าอยู่ เป็น teamwork งาuก็สำเร็จ ความสัมพันธ์ก็ดี ความสุขก็กลับมา แต่ ปั ญ ห า
คือ การลาออกไปหาที่ใหม่ ไม่ได้รับประกันว่า เราจะไม่เจอคน ร้ า ย ๆ แต่ก็ขอภาวนาละกันว่า ขอให้ได้เจ้านายดีๆที่จัดการผู้ ร้ า
ย ในคราบเพื่อนร่วมงาuให้เราได้ และเจ้านายก็อย่าเป็นผู้ ร้า ย เสียเองเพี้ยงอ่านแล้วถูกใจมาก ทุกวันนี้ แม้แต่เพื่อนร่วมงาuหรือ
คนที่ปริญญาชีวิตรู้จัก หลายคนพบ ปั ญ ห า นี้ และลาออกกันไปมากมายเพียงเพราะไม่ชอบเพื่อนร่วมงาu ทั้งๆ ที่เป็นคนที่ทำ
งาuเก่งมาก สละเวลาทุกอย่างเพื่องาu และมีความรับผิดชอบสูงมาก แต่บริษัทไม่สามารถจัดการกับคนร้่ายๆ ที่เลี้ยงเอาไว้ได้
เค้าจึงต้องขอลาออกไปหาที่ใหม่ที่อาจจะดีกว่าเดิมนั่นเอง
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://beautyoflifes.com/