ดีมากๆ ทฤษฎีของ ดร.เกริก ทำนาใช้น้ำน้อยปลูกข้าว 1 ไร่ ได้ 6 ตัน
หมวดหมู่สินค้า: บทความ
25 มีนาคม 2563
ผู้ชม 335 ผู้ชม
ดร.เกริก หลังจากเรียนรู้ทางด้านเกษตรจบมาจากต่างประเทศ ก็ได้เริ่มอาชีพแรก คือ “พ่อพิมพ์ของชาติ” เขาเริ่มต้นชีวิตครู ด้วยการสอนวิชาอังกฤษ ที่โรงเรียนสันติภาพฉะเชิงเทรา จ.ฉะเชิงเทรา จากนั้น มาสอนที่ โรงเรียนดาราสมุทร ต่อด้วย ที่โรงเรียนอัสสัมชัญศรีราชา และเป็นครูสอนพิเศษบ้าง
แต่ก็เจอคู่แข่งสำคัญคือ “เจ้าของภาษา” ซึ่งชาวต่างชาติเริ่มเข้ามาสอนในเมืองไทยมากขึ้น จึงหันเหมาสอนวิชาภาษาไทย เป็นอาจารย์พิเศษ มศว บางแสน บ้าง ในขณะเดียวกัน ก็ทำอาชีพนายหน้าที่ดินด้วย จับมาขายไป รายได้เป็นกอบเป็นกำ จากคนเป็นครูสู่อาชีพนายหน้า ทำให้ ดร.เกริก กลายเป็น “เสี่ยเกริก” เปลี่ยนอาชีพไปเรื่อยๆ เพราะความไม่พอจนหมดตัว สุดท้ายหันกลับมาปลูกต้นไม้ทำการเกษตรบนที่ดินที่พ่อแม่ทิ้งไว้ให้
ดร.เกริก ได้ความรู้มาจากการค้นคว้า และลงมือทำนาจริง และความรู้จากลูกสาวที่เรียนญี่ปุ่นอีกด้วย ไปถอดความรู้เรื่องการทำนาของชาวนาญี่ปุ่นว่าทำไมเขาจึงทำนาในพื้นที่ไม่มากแต่ได้ผลผลิตสูง
แนวคิดการทำนา 1 ไร่ ให้ได้ผลผลิตสูง ปริญญาชีวิตสรุปใจความสำคัญของการปลูกข้าวในระบบใหม่นี้ได้ดังนี้
การปรับสภาพดินและกำจัดวัชพืช
หลังเก็บเกี่ยวให้ปลูกปอเทืองในพื้นที่เมื่อได้ระยะเวลาก็ไถกลบไปพร้อมกับตอซัง ฟางหญ้า หากไม่มีก็ให้ใช้ใบไม้ ปุ๋ยคอก ปุ๋ยหมัก หว่านให้ทั่วแปลง ในอัตราไร่ละ 5-1O กระสอบ (หากได้ไร่ละ 1 ตันจะดีมาก)
ใช้น้ำหมักจุลินทรีบ์หน่อกล้วยประมาณ 5-1O ลิตร ผสมน้ำ 2OO ลิตร รดทั้งพื้นที่ แล้วไถกลบทิ้งไว้ 2O-3O วัน เพื่อปรับสภาพดินและกำจัดเมล็ดวัชพืชที่อยู่ในดิน ขั้นตอนนี้หากทำในพื้นที่ดินไม่ดี สามารถทำได้หลายรอบตามต้องการ
การปลูก
ไถคราด หรือปั่นด้วยโรตารีให้ดินเสมอเพื่อพร้อมสำหรับปลูก โดยใช้วิธีการหยอดเมล็ด ใช้ระยะห่างระหว่างกอ 4O*4O ซม. โดยในเมล็ดที่หยอดในแต่ละหลุดให้มีความห่างกัน 5-7 เซนติเมตร โดยหากเป็นข้าวหอมมะลิให้หยอด 5 เมล็ดต่อกอ ในขั้นตอนนี้ ให้ใช้เชือกขึงเพื่อความสะดวกรวดเร็ว
หลังหยอดเมล็ดต้องรักษาความชื้นในแปลงปลูกอย่าให้ดินแห้ง และก็อย่าให้น้ำขังจนกว่าเมล็ดจะงอก หากแล้งมากให้ใช้ระบบเทปน้ำพุ่งมาแก้ไขปัญหาตลอดฤดูการเพาะปลูก แต่หากฝนดีไม่แล้ง ให้ใช้ระบบปลูกแบบแห้งสลับเปียก
การดูแล บำรุงแปลงปลูก
เดือนแรก ใช้น้ำส้มควันไม้ ยูเรียน้ำอินทรีย์ จุลินทรีย์หน่อกล้วย อย่างละ 3O cc ผสมน้ำ 2O ลิตร ฉีดพ่นสัปดาห์ละครั้งเพื่อบำรุงใบ
เดือนที่ 2 ใช้น้ำส้มควันไม้ น้ำหมักมูลค้างคาว จุลินทรีย์หน่อกล้วย อย่างละ 3O cc ผสมน้ำ 2O ลิตร ฉีดพ่นสัปดาห์ละครั้งเพื่อบำรุงลำต้นให้แตกกอดี
เดือนที่ 3-4 ให้ใช้ฮอร์โมนไข่ จุลินทรีย์หน่อกล้วย อย่างละ 3O cc ผสมน้ำ 2O ลิตร ฉีดพ่นสัปดาห์ละครั้งไปจนเก็บเกี่ยวเพื่อบำรุงมีการเปิดตาดอก รวงยาว และเมล็ดสมบูรณ์
หากแปลงปลูก วัชพืชหญ้าขึ้นรบกวนให้รีบถอนทิ้ง อย่าให้วัชพืชสูงเกินต้นข้าว
การทำจุลินทรีย์ ฮอร์โมน
จุลินทรีย์หน่อกล้วย ใช้หน่อกล้วยสูง 1 เมตรจำนวน 3O กิโลกรัมสับให้ละเอียด ใส่ถังพลาสติกทึบแสง กากน้ำตาล 1O กิโลกรัม น้ำสะอาด 1OO ลิตร คลุกเคล้าให้เข้ากัน ปิดฝาให้สนิททิ้งไว้ 2 วัน 2 คืน (ห้ามให้อากาศเข้า)
วันที่ 3 ให้เปิดฝาแล้วเติมน้ำให้ท่วม และหมักต่ออีก 7 วันแบบเปิดฝาให้อากาศเข้าได้สะดวก โดยในระหว่างหมักช่วงที่สอง ต้องให้หน่อกล้วยจมน้ำ หรือให้น้ำท่วมอยู่ตลอดเวลา ก็จะสามารถใช้ได้เมื่อผ่านไปครบ 9 วันตั้งแต่เริ่มต้น และสามารถเก็บไว้ใช้งานได้ 6 เดือน
ปุ๋ยยูเรียน้ำอินทรีย์ ใช้ถั่วเหลือบดละเอียด 1 กิโลกรัม สับปะรดสับละเอียด 2 กิโลกรัม น้ำมะพร้าวหรือน้ำซาวข้าว 1O ลิตร กากน้ำตาล 3 กิโลกรัม จุลินทรีย์หน่อกล้วย 1 ลิตร ผสมให้เข้ากัน ใส่ถังหมัก 15 วัน เปิดคนทุกวัน ครบกำหนดจะได้ยูเรียน้ำอินทรีย์ (ยูเรียสูตรนี้ 4 ลิตร มีสรรพคุณเท่ากับปุ๋ย 46-O-O หนึ่งกระสอบ)
ฮอร์โมนไข่ ใช้ไข่ไก่สด 5 กิโลกรัม กากน้ำตาล 5 กิโลกรัม ยาคูลท์ 1 ขวด แป้งข้าวหมาก 1 ก้อน ตีไข่ให้เข้ากัน ผสมกากน้ำตาล นำเปลือกไข่มาตำให้ละเอียดผสมกับวัตถุดิบทั้งหมด หมักในถังพลาสติกปิดฝา คนทุกวัน ครบ 14 วัน ให้กรองเอากากออก จะได้ฮอร์โมนไข่ สำหรับไว้ใช้งาน
ที่นา 1 ไร่ ได้ผลผลิต 6 ตัน เป็นไปได้หรือ ดร.เกริก บอกว่าตนเองทำได้ แต่ทำในพื้นที่ 1 ไร่เท่านั้น หากทำในพื้นที่มากกว่านี้จะดูแลไม่ทั่ว
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://pagenews.net/?p=4251
ขอบคุณบทความดีๆจาก http://pagenews.net/?p=4251