พื้นที่ดิน 1 ไร่อาจจะไม่มากนักในการทำการเกษตรแต่หากมีการจัดสรรและบริหารการใช้ที่ดินที่ดีก็จะสามารถสร้างรายได้ที่ยั่งยืนเพื่อใช้จ่ายเลี้ยงดูตนเองและครอบครัวได้
ในพื้นที่ 1 ไร่จะประกอบไปด้วยพื้นที่ 4 งานจะมีการแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วน
ในส่วน 1 งานแบ่งไว้สำหรับบ่อน้ำและที่อยู่อาศัย
ในส่วน 3 งานที่เหลือจะแบ่งไว้สำหรับการการเพาะปลูกซึ่งมีการแบ่งเป็นการปลูกพืช 3 ระยะด้วยกันคือระยะสั้นระยะยาวและระยะกลางจะสามารถสร้างรายได้ในพื้นที่ 1 ไร่ได้อย่างไรไปดูกัน
ปลูกพืชระยะสั้น
จะต้องวางแผนการปลูก เลือกพันธผักที่เหมาะสม ราคาดี ใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วให้คุ้มค่า เช่น ถั่วงอก ต้นอ่อนทานตะวัน ผักบุ้งจีน กวางตุ้ง เห็ดนางฟ้า ผักคื่นฉ่าย ผักกาดหอม หรือผักสลัด เป็นต้น
ปลูกพืชระยะกลาง
จะเป็นพวกไม้ผล และผลไม้ตามฤดูกาล ซึ่งใช้ระยะการปลูกพอสมควร ส่วนใหญ่แล้ว ใน 1 ปีสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ 1-2 ครั้ง หรือตามฤดูกาล เช่น มะนาว มะพร้าว มะละกอ กล้วย มะม่วง เป็นต้น โดยรายได้ จากส่วนนี้จะเก็บไว้ เป็นเงินออม หรือชำระหนี้ หรือเป็นทุนในการซื้อ เครื่องทุนแรงต่างๆ เช่น ระบบน้ำ เป็นต้น
ด้วยข้อ จำ กั ด ของพื้นที่น้อย จึงต้องเน้นทำให้ผลผลิตออก ในช่วงที่มีราคาแพง เช่น การปลูกมะนาว ให้ออกผลในช่วงหน้า แ ล้ ง เดือน พฤศจิกายน-เมษายน ก็จะได้ราคาที่สูงขึ้น เป็นต้น
การปลูกพืชระยะยาว
จะเป็นจำพวกไม้เศรษฐกิจ ที่ใช้ระยะเวลากว่าที่จะมีการเก็บเกี่ยวหลายปี หรือใช้ประโยชน์ได้ เช่น สักทอง ย างนา ไม้เต็ง ไม้แดง หรือไม้ประดู่ เป็นต้น โดยต้นไม้เหล่านี้จะเน้น การปลูกตามแนวเขตแดน หรือปลูกเป็นรั้ว ซึ่งพื้นที่ 1 ไร่ จะมีความยาวมากถึง 160 เมตร หากเราปลูกต้นไม้ ในระยะ 2 เมตร/ต้น ก็จะได้ไม้เศรษฐกิจ 80 ต้น ในช่วงระหว่างที่ไม้เศรษฐกิจเหล่านี้ กำลังเติบโต พื้นที่ระหว่างต้นก็สามารถปลูกมะละกอพันที่มีราคาดี แซมระหว่างกลางได้
ข้อดีของการปลูกพืช ในพื้นที่น้อย
1.สามารถดูแลและควบคุมได้ทั่วถึง
2.สามารถทำได้เองภายในครอบครัว ไม่ต้องใช้แรงงานเยอะ
3.เป็นการปลูกพืชแบบผสมผสาน ย่อมดีกว่าแบบเดียว
4.เริ่มต้นแบบเล็กๆ เมื่อได้รับผลตอบแทนที่ดี และมีประสบการณ์มากขึ้น ก็สามารถ ขยายเพิ่มเติมได้ง่าย
แต่ทั้งนี้เกษตรกร ควรต้องใช้ชีวิตแบบพอเพียง เรียบง่าย ไม่ใช้จ่ายเกินตัวด้วย เช่นกัน
ขอบคุณบทความดี ๆ จาก https://me-panya.com/